เครื่องกรองน้ำ eSpring Amway

เครื่องกรองน้ำ โมเดิร์น อัจฉริยะ มีสมองกล

       ก่อนหน้านี้... ผมเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า เครื่องกรองน้ำคืออุปกรณ์ที่ "หลอกลวง" และ "ราคาแพง" ซื้อน้ำดื่มตามปกติ คุ้มกว่า แล้วก็คิดแบบนี้มาตลอด 30 ปี จนผมได้ไปเห็นสาธิตเครื่องกรองน้ำ eSpring ของ Amway

       สิ่งที่ทำให้ผมว้าว!!!  คือ การ "สาธิต" การกรองในแบบต่าง ๆ ทั้ง สีผสมอาหาร... คลอรีน... ที่อาจจะปนอยู่ในน้ำที่เราดื่มจากแหล่งต่าง ๆ อยู่ทุกวัน เมื่อสะสมในร่างกายไปเรื่อย ๆ จะเป็น "สารก่อมะเร็ง" และให้เห็นว่ามีสารปนเปื้อนอีกร้อยกว่าชนิด ที่สามารถกรองได้

       แต่สิ่งที่จะปล่อยผ่านคือ แร่ธาตุที่มีประโยชน์ ในแบบที่น้ำแร่ราคาแพง ๆ มี ซึ่งน้ำที่ดื่มจากกรองน้ำ eSpring จะยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วน! ต่างจากน้ำดื่ม RO เป็นการกรองน้ำที่ทำให้น้ำแทบจะไม่มีแร่ธาตุใด ๆ เหลืออยู่เลย คนที่ดื่มเป็นประจำ จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะพร่องแร่ธาตุ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ

       น้ำประปาปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผ่านการกรองและฆ่าเชื้อมาอย่างดี ถ้าเราได้รับน้ำประปาที่ใกล้แหล่งกระจาย เราจะค่อนข้างมั่นใจในความสะอาดได้... แต่ระหว่างทางที่น้ำประปามาถึงเราหล่ะ? ผ่านอะไรมาบ้าง? บางครั้งอาจจะมีน้ำขุ่น ๆ ไหลมาจากก๊อกน้ำบ้าง หรือ มีกลิ่นออกมาบ้าง ซึ่งไม่มีใครที่จะสามารถตรวจสอบท่อน้ำที่ไหลส่งมาถึงบ้านเราได้ทั้งเส้น จะดีกว่าไหมถ้า น้ำที่ส่งมาถึงบ้านเรา ถึงหน่วยงานจะบอกว่า สะอาด แต่เพื่อที่จะทำให้มั่นใจได้ 100% จริง ๆ ให้น้ำที่ดื่มใส สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น หรือกลื่นคลอรีนที่เราไม่ชอบได้จริง ๆ

       จากการสาธิตครั้งนั้นทำให้ผมเปิดใจกับกรองน้ำไม่ว่าจะยี่ห้อไหน แต่ทำไมผมถึงมาชอบ eSpring ก็มาดูในรายละเอียดกันเลยครับ ว่าเพราะอะไร

       1. eSpring "มีไส้กรองคาร์บอนกัมมันต์" ที่อัดแน่นเป็นแท่ง สามารถดักจับและกำจัดสิ่งปนเปื้อน มากกว่า 160 ชนิด หรืออนุภาคที่เล็กเพียง 0.2 ไมครอน (ขนาดเล็กกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางเส้นผมเราถึง 300 - 500 เท่า) ก็กรองได้หมด แต่ก็ยังคงแร่ธาตุที่สำคัญในน้ำไว้ได้ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟลูออไรด์  กลิ่นและรสชาติจะสะอาดมาก ๆ สีของน้ำจะใส (ได้รับมาตรฐาน NSF/ANSI 42, 53, 55, 401, P447, P473 และได้รับ รางวัล อีกมากมาย)

       2. eSpring "มีหลอดอุลตร้าไวโอเลต (UV)" ที่มีความเข้มแสง 80 มิลลิจูลล์ ที่ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคให้อีกหนึ่งชั้น สามารถกำจัดแบคทีเรีย และ ไวรัสที่ก่อโรคได้ถึง 99.99%                                

       3. eSpring "มีเทคโนโลยี Smart Chip" ที่สามารถใช้ความถี่ของวิทยุในการสื่อสารไปมากับชุดไส้กรอง eSpring ได้ ทำให้สามารถช่วยบันทึกการใช้งาน ปริมาณการใช้งานน้ำที่เป็นแกลลอนหรือลิตร และจะแจ้งเตือนให้ทราบว่าเมื่อใดถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนไส้กรอง โดยที่จะแสดงผ่านจอภาพอิเลกทรอนิกส์

       4. eSpring "ไม่ใช้ขั้วไฟฟ้า" หรือสายไฟที่สัมผัสกับไส้กรอง/หลอดยูวี ปลอดภัยจากไฟรั่ว แต่ใช้พลังงาน "สนามแม่เหล็ก" เหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าที่หลอดยูวี ขณะที่น้ำไหลผ่านแทน

       สิ่งสำคัญที่สุด... ที่ต้องพูดถึงคือ ความคุ้มค่า

         - ค่าไฟฟ้าคิดที่ปีละ 60 บาทเท่านั้น (เสียบปลั๊กตลอด 24 ชม.)

         - eSpring จะมีไส้กรองที่สามารถกรองน้ำได้ 5000 ลิตร เมื่อครบก็จะต้องเปลี่ยนไส้กรอง

         - ปีแรก จะคิดที่ ลิตรละ 5.9 บาท (คิดจากราคาเครื่องพร้อมกรอง)

         - ปีต่อไป ลิตรละ 0.97 บาท (คิดจากราคากรองอย่างเดียว เพราะเครื่องใช้ได้นานเป็น 10 ปี)

         - คิดที่ระยะ 10 ปี คิดเป็นเงิน ลิตรละ 1.46 บาท หรือ 7,500 บาทต่อปี

         - แต่ถ้าเทียบกับน้ำถังหรือขวด ที่ 5,000 ลิตร เฉลี่ย ปีละ 4 - 5 หมื่นบาท!!! ในทุก ๆ ปี เท่ากับต่อปีสามารถซื้อกรอง eSpring ได้เกือบ 2 เครื่องเลยทีเดียว (ราคาน้ำดื่มขวดเฉลี่ย 8.67/ลิตร)

         - eSpring จะไม่สูญเสียน้ำ 100% ในระหว่างการกรอง ไม่เหมือนเครื่องกรองบางยี่ห้อ ทำให้ไม่เสียทรัพยากรของโลกเรา ลดขยะพลาสติก 10,000 ขวดต่อปี

รีวิวสินค้า และ การติดตั้ง

     ในช่วงวิกฤติ โควิด 19 แบบนี้ ทำให้คนต้องการน้ำมากขึ้นเท่าตัว เนื่องจากต้องอยู่บ้านตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น การกักตัว หรือ Work From Home(WFH)  ทำให้การซื้อน้ำตุนไว้ที่บ้าน เพิ่มขึ้นสูงมาก ซึ่งหลาย ๆ บ้านเพิ่มขึ้นมากว่า 2 - 3 เท่าตัว ทำให้สิ้นเปลืองเป็นอย่างมาก ผมเลยสั่งซื้อมาติดตั้งที่บ้านเพื่อประหยัดทั้งในระยะสั้น และ ระยะยาว หลังจากนี้จะเป็นการรีวิวจากสินค้าที่ผมสั่งซื้อมาในช่วงโควิด 19 สด ๆ ร้อน ๆ เลยนะครับ

          ผมสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ โดยที่ Amway ให้ SCG Express จัดส่งสินค้าให้นะครับ(ทาง Amway จะเลือกบริษัทจัดส่งให้เองนะครับ อาจจะเป็น SCG, Kerry หรือเจ้าอื่น ๆ ตามความเหมาะสม) โดยที่กล่องที่ได้มาจะมีสองกล่องคือ กล่องเครื่องกรองพร้อมไส้กรอง กับ กล่องรางเก็บท่อน้ำ(ฟรี) เมื่อเปิดกล่องมา จะมีแผ่นพับรูปกรองซึ่งจะมีคำแนะนำเบื้องต้นให้ได้อ่านเพื่อทำความเข้าใจแบบงาย ๆ และ จะมีคู่มือการใช้งานภาษาอังกฤษ และ ภาษไทยในเล่มเดียว

          เมื่อเปิดเข้ามาชั้นในจะมีช่อง 2 ช่อง ช่องแรก จะเป็น เครื่องกรองพร้อมไส้กรอง และ ช่องที่สองจะเป็น ท่อน้ำ และ หัวที่ใช้ในการต่อเข้าก๊อกน้ำ ซึ่งจะรองรับหัวก๊อกน้ำ 3 แบบ คือ แบบเกลียวใน แบบเกลียวนอก และ แบบก๊อกสนาม ซึ่งก็จะรองรับก๊อกทุกรูปแบบนั่นเองครับ

          เมื่อเอากรองออกมาจากกล่อง จะเห็นถึงความโมเดิร์น สวย สีขาวดูหรูหรา ขนาดเล็กกระทัดรัด สมราคาครับ

          เมื่อแกะฝาออก จะเห็น ชุดชิพที่ใช้ในการควบคุม ไส้กรอง น้ำ และ หน้าจอมอนิเตอร์ ถัดไปจะเป็นกรองคาร์บอนกัมมันต์ ที่หุ้ม หลอดไฟ UV อัดแน่นภายในครับ ไม่กลวง ไม่ก๊องแก๊งแน่นอนครับ

          ส่วนของการติดตั้ง ไม่ยากครับ มีคู่มืออย่างละเอียด อธิบายครบทุกขั้นตอน และมี วิดีโอ ให้ดูผ่าน Youtube อีกช่องทางครับ 

          สำหรับสิ่งที่ต้องระวังในการติดตั้ง จะมีสองเรื่องคือ การตัดสายท่อน้ำ ต้องวัดให้ดี ไม่สั้นเกินไป (ไม่รั้งตามจุดต่อกับก๊อกและเครื่องกรอง) หรือ ยาวเกินไป (หย่อนเกินไปจนเกะกะ) เพราะไม่อย่างนั้นแล้วจะต้องสั่งซื้อท่อน้ำแยกอีก 170 บาทมาทำใหม่ และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำตามขั้นตอนคือ การต่อสายท่อน้ำเข้าไปแบบไม่ต่อปลั๊กไฟ เพื่อทำความสะอาด ชะล้างผงคาร์บอนที่ติดอยู่ในกรองคาร์บอน 15 นาที ขั้นตอนติดตั้งนี้จะใช้เวลารวมการไล่น้ำเพียง 20 นาที

          ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยครับในช่วงสถานะการณ์ โควิด 19 แบบนี้ ซื้อน้ำไม่ไหวครับ ราคาแพง หรือบริษัทส่งน้ำ ก็ติดต่อไม่ได้ไม่มาส่ง ใช้กรองเครื่องเดียวสะอาด กรองได้แม้กระทั้งไวรัสเล็ก ๆ สะอาด ปลอดภัย และ ประหยัดทั้งเงินและเวลาแน่นอนครับ

ออกแบบมาได้โมเดิร์นมากครับ พอจัดวางบนเคาเตอร์ครัวทำให้ครัวสวยขึ้นเยอะเลย

การันตีด้วยมาตรฐานระดับโลกและรางวัลคุณภาพ

                                   . .   

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางไลน์ด้วยการ scan QR code เพื่อ Add Line ได้เลยนะครับ

#เครื่องกรองน้ำ eSpring โดย Amway #เครื่องกรองน้ำอีสปริงโดยแอมเวย์ #เครื่องกรองน้ำแอมเวย์ #เครื่องกรองน้ำ espring #อันดับหนึ่ง #ดีที่สุด #อีสปริง #แอมเวย์ #espring #amway

เครื่องกรองน้ำ espring amway อีสปริง แอมเวย์ เครื่องกรองน้ำอันดับหนึ่งของไทย และ ของโลก