นอร์ก้า ชุดล้างแอร์ขวัญใจพ่อบ้าน

สุดยอดชุดล้างแอร์ขวัญใจพ่อบ้าน สะดวก ง่าย สะอาด

     ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบจ้างช่างล้างแอร์ เพราะเคยมีประสบการณ์ มาหลายต่อหลายครั้งที่จ้างมา ด้วยค่าจ้างล้างเครื่องละ 400 - 600 บาท สุดท้าย บานปลาย หลายพันบาททุกครั้ง และอีกสาเหตุหนึ่งที่ผมต้องทำเองเพราะ ไม่รู้เพราะอะไร แอร์ชอบมีปัญหาตอนกลางดึกที่เราไม่สามารถเรียกหาช่างได้ เราก็จำเป็นที่จะต้องแก้ไขเอง ซ่อมเองถ้าไม่ยากจนเกินไป แต่สุดท้าย ปีนึง หรือ สองปี ครั้งผมต้องจ้างมานะครับ เพราะทำเองอย่างไรก็ไม่สะอาดเท่าช่าง หรือบางครั้ง น้ำยาแอร์ มันหายไปจริง ๆ ก็ต้องให้เค้ามาเติมให้

     ในช่วงแรก ๆ ที่ผมซ่อมเอง จะค่อนข้างลำบาก และ ยากมาก ๆ เนืองจากไม่มีอุปกรณ์ เลยต้องใช้ของที่พอหาได้ในบ้านมาใช้แทน และ ค่อย ๆ หาซื้อของมาเพิ่มเติมเพื่อให้การล้างแอร์ หรือแก้ไขปัญหาที่ชอบเกิดขึ้นกลางดึก ซึ่งส่วนใหญ่ก็คืออาการ ท่อตัน ฝุ่นอุดตัน แต่สิ่งที่ต้องเจอก็คือ ล้างเองอย่างไร ก็จะยังมีกลิ่นที่ไม่สะอาด แล้วล้างฝุ่นไม่สะอาด น้ำเลอะพื้นที่เป็นลามิเนต ทำให้การล้างแต่ละครั้ง ยากและลำบากมาก ต้องค่อยฉีดไป เช็ดไปเพื่อไม่ให้พื้นพัง

     แต่ผมก็ได้มาเจอตัวช่วยที่ทำให้การล้างแอร์ด้วยตัวเองของผมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นก็คือชุดล้างแอร์ของ นอร์ก้า (Norca) ซึ่งในชุดจะประกอบไปด้วย โฟมล้างแผงรังผึ้งคอยล์เย็น (กระป๋องฟ้า) โฟมล้างใบพัดลมแอร์ (กระป๋องเขียว)  ที่ฉีดแรงดัน และ ถุงพลาสติกคลุมกันเลอะ

     ชุดนี้ตอบโจทย์ผมทุกอย่าง เนื่องจาก ผมต้องการล้างเองแบบรอบเล็ก (รอบใหญ่ที่ต้องจ้างก็ต้องมีอยู่) ที่สามารถล้างแล้วไม่ต้องเหนื่อยมากเกินไป ให้เครื่องมือช่วยลดแรงในระดับหนึ่งด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

ขั้นตอนล้างแอร์ในบ้าน (แบบเร็ว ๆ)

1. สับสวิตช์คัทเอาท์แอร์ที่เราะล้าง
2. ถอดฟิลเตอร์ ไม่ต้องแกะหน้ากากครอบแอร์
3. นำถุงพลาสติกคลุมแอร์ โดยให้สายรัดเครื่องด้านบน แล้วสอดขอบถุงตามขอบของแอร์ เพื่อกันไม่ให้น้ำรั่ว
4. ฉีดน้ำด้วยขวดฉีดน้ำแรงดันเพื่อชะล้างฝุ่นในรอบแรกที่แผงรังผึ้งคอยล์เย็น 
5. ฉีดโฟมล้างแผงรังผึ้งคอยล์เย็นตามแนวครีบแผงรังผึ้งให้ทั่ว โดยจะต้องฉีดให้โฟมพองตัวออก ทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที  *อย่าให้โฟมโดนเนื้อหนัง ตา หรือเข้าปาก ถ้าโดนให้รีบล้างออกด้วยน้ำเปล่า หรือถ้าเข้าตาให้ล้างด้วยน้ำเปล่าเบื้องต้นแล้วไปพบแพทย์

1. ฉีดน้ำด้วยขวดฉีดน้ำแรงดันเพื่อชะล้างฝุ่นในรอบแรกที่ใบพัด
2. ฉีดโฟมล้างใบพัดลมแอร์ตรงกลางของใบพัดให้โฟมพองตัวกระจายรอบ ๆ ใบพัด แล้วค่อย ๆ ขยับฉีดตามแนวใบพัดไปเรื่อย ๆ ตามแนวด้านข้าง ขวาไปซ้าย หรือ ซ้ายไปขวาก็ได้ ทิ้งไว้ 30 นาที *อย่าให้โฟมโดนเนื้อหนัง ตา หรือเข้าปาก ถ้าโดนให้รีบล้างออกด้วยน้ำเปล่า หรือถ้าเข้าตาให้ล้างด้วยน้ำเปล่าเบื้องต้นแล้วไปพบแพทย์
3. ล้างแผงคอยล์เย็นด้วยน้ำ โดยใช้ขวดฉีดน้ำแรงดัน ให้สะอาด ทิ้งไว้ 30 นาที
4. ล้างใบพัดด้วยน้ำ โดยใช้ขวดฉีดน้ำแรงดัน ให้สะอาด ทิ้งไว้ 30 นาที
5. สับคัทเอาท์เปิดตามเดิม แล้วทดสอบเปิดแอร์ จะได้กลิ่นหอมสะอาดทันที แต่อาจจะมีน้ำกระเด็นออกจากใบพัด ให้หา พลาสติก หรือ ผ้ากันไว้ ประมาณ 5 นาที ก็จะหมด

ขั้นตอนล้างแอร์ในบ้าน (แบบเต็ม)

1. สับสวิตช์คัทเอาท์แอร์ที่เราะล้าง
2. ถอดฟิลเตอร์ แกะฝาครอบแอร์
3. นำถุงพลาสติกคลุมแอร์ โดยให้สายรัดเครื่องด้านบน แล้วสอดขอบถุงตามขอบของแอร์ เพื่อกันไม่ให้น้ำรั่ว
4. ฉีดน้ำด้วยขวดฉีดน้ำแรงดันเพื่อชะล้างฝุ่นในรอบแรกที่แผงรังผึ้งคอยล์เย็น 
5. ฉีดโฟมล้างแผงรังผึ้งคอยล์เย็นตามแนวครีบแผงรังผึ้งให้ทั่ว โดยจะต้องฉีดให้โฟมพองตัวออก ทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที *อย่าให้โฟมโดนเนื้อหนัง ตา หรือเข้าปาก ถ้าโดนให้รีบล้างออกด้วยน้ำเปล่า หรือถ้าเข้าตาให้ล้างด้วยน้ำเปล่าเบื้องต้นแล้วไปพบแพทย์
6. ฉีดน้ำด้วยขวดฉีดน้ำแรงดันเพื่อชะล้างฝุ่นในรอบแรกที่ใบพัด
7. ฉีดโฟมล้างใบพัดลมแอร์ตรงกลางของใบพัดให้โฟมพองตัวกระจายรอบ ๆ ใบพัด แล้วค่อย ๆ ขยับฉีดตามแนวใบพัดไปเรื่อย ๆ ตามแนวด้านข้าง ขวาไปซ้าย หรือ ซ้ายไปขวาก็ได้ ทิ้งไว้ 30 นาที *อย่าให้โฟมโดนเนื้อหนัง ตา หรือเข้าปาก ถ้าโดนให้รีบล้างออกด้วยน้ำเปล่า หรือถ้าเข้าตาให้ล้างด้วยน้ำเปล่าเบื้องต้นแล้วไปพบแพทย์
8. ล้างแผงคอยล์เย็นด้วยน้ำ โดยใช้ขวดฉีดน้ำแรงดัน ให้สะอาด ทิ้งไว้ 30 นาที
9. ล้างใบพัดด้วยน้ำ โดยใช้ขวดฉีดน้ำแรงดัน ให้สะอาด ทิ้งไว้ 30 นาที
10. ถอดรางน้ำออกมาล้างด้วย เรื่องจากเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเมือกเหนียวที่จะนำไปสู่การอุดตัน แล้วทำให้น้ำรั่วไหลออกมา
11. เมื่อล้างรางน้ำเสร็จ ให้เป่าท่อน้ำทิ้งด้วยเครื่องเป่า แต่สำหรับผมในตอนที่ไม่มีเครื่องเป่า ผมเอาพลาสติก หรือ มือรองแล้วปากเป่าไล่สิ่งตกค้างในท่อครับ บอกเลยว่าหน้ามืด แต่ก็ได้ผล
12. ใส่รางน้ำกลับเข้าไป แล้ว ประกอบฝาครอบแอร์ และ เอาฟิลเตอร์ ใส่กลับ

ขั้นตอนล้างคอมแอร์ นอกบ้าน (คอยล์ร้อน)

1. ถอดตะแกรง หรือ ฝาครอบด้านหน้าออกด้วยไขควง หรือ ประแจตามประเภทของเครื่อง
2. ถอดใบพัดออก
3. ครอบมอเตอร์ด้วยพลางติกเพื่อกันน้ำ
4. ฉีดน้ำด้วยขวดฉีดน้ำแรงดันที่แผงคอยล์ร้อนเพื่อชะล้างฝุ่นออกในขั้นต้น
5. ฉีดโฟมนอร์ก้า กระป๋องฟ้า ที่แผงคอยล์ร้อนตามแนวครีบ ทิ้งไว้ 15 นาที
6. ล้างใบพัดให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า
7. ฉีดแผงคอยล์ร้อนด้วยน้ำเปล่าโดยใช้ขวดฉีดน้ำแรงดันเพื่อชะล้างโฟม
8. ถ้ามีเครื่องเป่าลม ให้เป่าน้ำที่แผงคอยล์ร้อนให้แห้ง ถ้าไม่มีให้ทิ้งไว้ ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง แล้วแต่ความเหมาะสม
9. ถอดพลาสติกคลุมมอเตอร์ออก เป่าลมเพื่อไล่น้ำตกค้างรอบ ๆ มอเตอร์
10. ประกอบใบพัด
11. ประกอบตะแกรงฝาหน้าคอมแอร์กลับ
12. สับสวิตช์คัทเอาท์เพื่อเปิด แล้วทดสอบเปิดแอร์

     สำหรับสุดล้างแอร์นอร์ก้าแบบ 4 ชิ้นนี้จะสามารถล้างแอร์ ได้ 2 - 3 เครื่อง แล้วแต่ขนาดของแอร์ที่ล้าง ซึ่งก็จะทำให้ประหยัดค่าจ้างช่างได้พอสมควร 

     แต่ก็ย้ำกว่า การล้างแบบนี้ไม่สามารถทดแทนการจ้างช่างได้ เนื่องจากจะไม่สะอาดเท่ากับการใช้ที่ฉีดน้ำแรงดันสูง และ ส่วนของน้ำยาแอร์ ถึงจะเป็นระบบปิด แต่ก็มีโอกาสที่จะหมดไปได้ ตามสภาพการใช้งานอีกที ซึ่งต้องให้ช่างมาตรวจปีละครั้ง (ช่างที่ไว้ใจได้ ไม่เหมือนผมที่โดนหลอก)

     สำหรับกลิ่นของน้ำยาล้างที่เป็นโฟม ก็จะแล้วแต่นะครับ บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ ถึงขั้นดมไม่ได้เลยก็มี อันนี้แล้วแต่จริง ๆ ครับ ซึ่ง ณ ตอนนี้ยังมีแค่กลิ่นเดียว ที่เป็นกลิ่นเย็น ๆ ที่มีลักษณะเฉพาะตัว

คะแนนของจัดไปรีวิว

- ความคุ้มค่า                  7.5/10

- วัสดุและการออกแบบ    9/10

- ประสิทธิภาพ                7/10

- การใช้งาน                   7/10

คะแนนรวม  7.5

     - ความคุ้มค่าที่ให้ 7 เนื่องจาก ชุดนี้ จะช่วยทำความสะอาดได้เบื้องต้น ฝุ่นที่เกาะจะยังออกไม่หมด จะยังคงเหลืออยู่ระดับหนึ่ง ถ้าสามารถพัฒนาให้ทำความสะอาดฝุ่นได้ดีกว่านี้จะดีมาก แต่ก็ยังคงช่วยให้ยืดอายุแอร์ได้เนื่องจากการที่เราได้ล้างฝุ่นออกไปได้พอสมควร ทำให้แอร์ทำงานไม่หนักมากเกินไป

     - วัสดุและการออกแบบได้ 9 เพราะ เป็นชุดที่ออกแบบให้สามารถใช้งานได้ง่ายมาก ๆ จากที่เคยล้างแล้วเลอะเทอะ กลื่นเหม็นฝุ่นไม่หาย ขวดน้ำแรงดันที่ออกแบบท่อแรงดันทำให้ฉีดได้แรงในขณะที่ขนาดเล็กกะทัดรัด ใช้งานง่าย จึงให้คะแนนสูง แต่ที่ยังไม่เต็ม 10 เพราะที่ฉีดต้องบีบเพื่อฉีดน้ำออกเป็นรอบ ๆ พอนาน ๆ ไปก็เมื่อยมือพอสมควร ถ้าสามารถทำให้สามารถพ่นออกมาได้ยาว ๆ ปั้มเป็นรอบ ๆ ได้ให้ 10

     - ประสิทธิภาพ ที่ให้ 7 เพราะ ตามข้อแรกเรื่องความคุ้มค่า คือล้างฝุ่นออกไปได้ประมาณ 70% ถ้าอยากให้สะอาดหมดจด ต้องใช้ เครื่องฉีดแรงดันสูงซึ่งไม่เหมาะกับคอนโดเล็ก ๆ  หรือไม่ก็ต้องเอาแปรงมาขัดฝุ่นตามซอก ซึ่งจะใช้เวลานาน และ แรงเยอะ

     - การใช้งานที่ให้ 7 จริง ๆ การใช้งานง่ายมาก ๆ นะครับ ตามข้อที่ 2 ของการออกแบบ แต่ด้วยการที่ล้างไม่สะอาดหมดจด จึงทำให้คนที่ล้างแอร์บอย ๆ อย่างผมก็ยังต้องใช้แรงเยอะในการล้างส่วนอื่น ๆ ให้หมดจดอยู่ดี อยากให้พัฒนา การล้างท่อน้ำทิ้งให้สะอาดมากขึ้น จะทำให้ข้อนี้คะแนนสูงขึ้น